ความเสี่ยงที่สำคัญที่สุดของการลงทุน คือ ความไม่รู้ ความไม่เข้าใจในสิ่งที่ลงทุน ขนาดจะเล่นพนันออนไลน์ยังต้องรูวิธีเดิมพัน หุ้นก็ไม่ต่างจากพนันออนไลน์ ถ้ามองการลงทุนเหมือนการร่วมทำธุรกิจ ก็ต้องรู้เรื่องธุรกิจที่จะทำ ไม่ใช่ไม่รู้ว่าธุรกิจที่ทำมาหาได้จากตรงไหน รายได้มายังไง มีต้นทุนเท่าไร กำไรหรือไม่อย่างไร ถ้าเป็นแบบหลังถือว่ากำลังเสี่ยงบโดยที่อาจไม่รู้เนื้อรู้ตัว
ประการที่หนึ่ง ควรรู้ว่ากิจการที่ลงทุนทำอะไร หากลงทุนในสิ่งใดโดยไม่รู้ว่าเขาทำกิจการอะไร มันก็คล้ายๆ จะเป็นการพนันราคาหุ้นว่ามันจะขึ้นหรือลงเพียงอย่างเดียว ซึ่งในสายเทคนิคอลที่ใช้เครื่องมืออย่างกราฟราคาหุ้นสามารถทำได้ และมีคนประสบความสำเร็จได้จริงๆ แต่ในสายนักลงทุนแนวพื้นฐานจะไม่สนใจแค่ราคาหุ้นแต่เพียงอย่างเดียว สำหรับนักลงทุนแนวพื้นฐานต้องทำความรู้จักกับหุ้นที่เราถือ เปรียบเสมือนจะคบใครสักคนเป็นเพื่อนหรือเป็นคู่ครอง ก็ต้องดูให้ดีว่าเขาเป็นคนยังไง ถ้าเป็นหุ้นก็ต้องรู้ว่าเขาทำกิจการอะไร และกิจการนั้นมีอนาคตหรือไม่ อย่างไรนั่นเอง
ประการที่สอง ควรรู้ว่ารายได้ของกิจการมาจากทางไหนบ้าง หากคิดจะร่วมลงทุนทำธุรกิจกับใคร ยังต้องศึกษาให้ลึกว่ากิจการนั้นจะทำเงินได้หรือเปล่า เช่นเดียวกับหุ้นก็เหมือนกิจการหนึ่งที่ต้องทำเงินจากการหารายได้ จากการขายสินค้า และบริการต่างๆ เฉกเช่นเดียวกัน สำหรับแหล่งรายได้ของกิจการที่ลงทุน ควรแยกแยะให้เห็นชัดเจนว่ารายได้หลักมาจากทางไหนบ้าง เป็นรายได้ประจำหรือไม่ หรือเป็นแค่รายได้ชั่วคราว ทริกเล็กๆ ของการมองภาพโครงสร้างรายได้ของกิจการก็คือ รายได้ที่ดีควรเป็นรายได้ประจำสม่ำเสมอ และมีสินค้าหรือบริการที่สามารถสร้างรายได้ได้เรื่อยๆ นั่นจะดีมากๆ
ประการที่สาม ควรรู้สถานะทางการเงินของบริษัท นักลงทุนสามารถเข้าไปตรวจสอบสถานะทางการเงินของแต่ละบริษัทที่ลงทุนได้ โดยดูที่งบดุลของกิจการ จะได้รู้ว่าบริษัทมีสินทรัพย์อะไรบ้าง มากน้อยแค่ไหน มีหนี้สินเท่าไร หลายคนลงทุนโดยไม่รู้ว่าหุ้นที่ตนถือมีหนี้สินล้นพ้นตัว และอาจจะต้องเพิ่มทุนเร็วๆ นี้ ก็เป็นไปได้ อย่างไรก็ตามสิ่งที่สำคัญกว่าสถานะทางการเงินก็คือ การที่กิจการมีความแข็งแกร่ง หลายครั้งกิจการมีหนี้สินมาก แต่อาจไม่ใช่ปัญหาในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกิจการกึ่งผูกขาดที่ยังอยู่ในช่วงต้นๆ ของการเติบโต หากไม่คำนึงถึงปัจจัยนี้ประกอบ อาจจะทำให้พลาดหุ้นดีๆ ตอนราคายังเป็นต้นกล้าก็เป็นได้